วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

                   ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) ประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ หลายๆ เครื่องที่มีความสามารถติดต่อกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ การติดต่อจะผ่านช่องทางการสื่อสารต่างโดยในการศึกษาเรื่องดังกล่าวจำเป็นต้องทำความรู้จักกับศัพท์ต่างๆที่อยู่ในเนื้อหาก ดังนี้




บทที่ 1 ความหมายของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์


          Computer Network คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องที่มีความสามารถติดต่อกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้



         Hardware คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น




          Software  คือ  ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์

         Share คือ การใช้ร่วมกัน

        Data  คือ ข้อเท็จจริงที่ยังไม่ผ่านการประมวลผล

        Multi-users  คือ   User สามารถใช้ โปรแกรมหรือข้อมูลเดียวกันได้ครั้งละหลายๆ คนซึ่ง Network นั้นสามารถใช้งานระบบนี้ ได้เป็นอย่างดี




          E-mail (Electronic Mail) 
คือ User แต่ละคนสามารถส่งและรับข้อมูลหรือข่าวสาร
ซึ่งกันและกันได้ โดยผ่านทาง Workstation ของตนเอง
       Schedule หรือ Group Calendar  คือ  เป็นโปรแกรมที่รวบรวมปฏิทินรายวันของ User แต่ละคนมารวมกันเป็นรางของทั้งระบบ ทำให้ผู้จัดการระบบสามารถทราบนัดหมายต่างๆของ User แต่ละคนได้

       Database  คือ เป็นกลุ่มของข้อมูล ที่มีการจัดการเพื่อทำให้ เข้าถึง จัดการและปรับปรุงได้ง่าย





บทที่ 2   องค์ประกอบของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
          
          NIC (Network Interface Card)    คือ  เป็นการ์ดที่เสียบเข้ากับช่องบนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นชุดเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และเครือข่าย

          Protocol   คือ  โปรโตคอลเป็นภาษาที่คอมพิวเตอร์ใช้สื่อสารกันผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่สามารถสื่อสารกันได้นั้นจำเป็นต้องใช้ภาษา หรือโปรโตคอลเดียวกัน เช่น OSI, TCP/IP, IPX/SPX เป็นต้น

          NOS (Network Operating System)   คือ  ระบบปฏิบัติการเครือข่ายจะเป็นตัวที่คอยจัดการเกี่ยวกับการใช้งานเครือข่ายของผู้ใช้แต่ละคน หรือเป็นตัวจัดการและควบคุมการใช้ทรัพยากรต่างๆ ของเครือข่าย

          Server Computer  คือ คอมพิวเตอร์ที่คอยให้บริการ คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆที่เข้ามาขอใช้บริการงานต่างๆครับ ลักษณะการทำงานของมันจะถูกแบ่งหน้าที่ไปตามส่วนที่ให้บริการด้านต่างๆ เช่น เว็บ เซิร์ฟเวอร์, เซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล, ไฟล์ เซิร์ฟเวอร์, ปริ้น เซิร์ฟเวอร์ ฯลฯ


          Client   คือ  เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไปร้องขอบริการและรับบริการอย่างใดอย่างหนึ่งจาก Server





          Coaxial Cable  เป็นสายสัญญานที่มีลักษณะคล้ายกับสายเคเบิลทีวี  คือมีแกนเป็นทองแดง ห่อหุ้มด้วยฉนวน แล้วหุ้มด้วยตาข่ายโลหะชั้นนอกสุดเป็นวัสดุป้องกันสายสัญญาณ สายประเภทนี้นิยมใช้มาก        ในเครือข่ายสมัยแรกๆ แต่ปัจจุบัน
ไม่นิยมใช้แล้วเปลี่ยนเป็นการใช้สายคู่เกลียวบิดแทน

Twisted Pairs  เป็นสายสัญญาณมาตรฐานที่นิยมใช้ มากที่ สุดในระบบเครือข่ายปัจจุบัน สายสัญญาณจะประกอบด้วยสายทองแดงที่ห่อหุ้มด้วยฉนวน 2 เส้นแล้วบิดเป็นเกลียวเหตุที่บิดเป็นเกลียวก็เพื่อลดสัญญาณรบกวนนั่นเอง

          
Fiber Optic เป็นสายที่ใช้แสงเป็นสัญญาณ และแก้วหรือพลาสติกใสเป็นสื่อนำสัญญาณ ในขณะที่สายคู่เกลียวบิดและสายโคแอ็กเชียลใช้ สัญญาณไฟฟ้าและโลหะเป็นสื่อ


          Hub เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในการเชื่อมต่อเครื่องจำนวนมากเข้าด้วยกันในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยที่ฮับจะมีพอร์ต (Port) หรือช่องสำหรับต่อสาย RJ-45 เข้ามาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการกระจายข้อมูล

          Switch  คืออุปกรณ์ระบบเครือข่ายลักษณะเดียวกับฮับและมีหน้าที่คล้ายกับฮับมาก แต่มีความแตกต่างที่วงจรการทำงานภายในจะใช้ หลักการของวงจรสวิตชิ่งที่สลับการส่งข้อมูลในแต่ละพอร์ตไปมา ไม่ได้แบ่งช่องทางการส่งผ่านข้อมูลเหมือนฮับจึงทำให้แต่ละพอร์ต  (Port) มีความสามารถในการส่งข้อมูล
ได้สูงกว่า

          Repeater  คือ  อุปกรณ์ระบบเครือข่ายที่ใช้ในการเชื่อมต่อสายเคเบิล 2 เส้นเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มระยะทางการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย

          Bridge  คือ   อุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายของเครือข่ายที่แยกจากกัน การติดต่อภายในเครือข่ายเดียวกันมีลักษณะการส่งข้อมูลแบบแพร่กระจาย ดังนั้นจึงกระจายได้เฉพาะเครือข่ายเดียวกันเท่านั้น

          Router คือ อุปกรณ์ระบบเครือข่ายซึ่งทำหน้าที่เสมือนสะพานสำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายท้องถิ่น หรือระบบเครือข่าย LAN (Local Area Network) เข้ากับระบบเครือข่าย WAN (Wide Area Network) ขนาดใหญ่

           Gateway  คือ  อุปกรณ์ระบบเครือข่ายที่มีความซับซ้อนมากกว่าเราท์เตอร์หรือบริดจ์ เพราะอุปกรณ์ชนิดนี้สามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลใน Data link และ Network Layer ที่แตกต่างกันได้มากกว่า 2 ระบบ

           Protocol  คือ  มาตรฐานในการสื่อสารข้อมูลของคอมพิวเตอร์ หรืออาจกล่าวได้ว่า โปรโตคอลเป็น ภาษา ที่คอมพิวเตอร์ใช้สื่อสารกัน

          OS (Operating System) คือ ระบบปฏิบัติการที่ทำหน้าที่จัดการเกี่ยวกับการเข้าใช้ ทรัพยากร
ต่างๆ ของโปรแกรมที่รัยบนคอมพิวเตอร์ เช่น หน่วยความจำ  ฮาร์ดดิสก์ จอภาพ คีย์บอร์ด เมาส์ เป็นต้น





บทที่ 3 การสื่อสารข้อมูล 

          Transmission คือ การโอนถ่าย หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างต้นทางกับปลายทางโดยผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์

          Sender  คือ  ผู้ส่ง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการส่งข่าวสาร (Message) เป็นต้นทางของการสื่อสารข้อมูลมีหน้าที่  เตรียมสร้างข้อมูล เช่น ผู้พูด โทรทัศน์ กล้องวิดีโอ เป็นต้น

          DTE (Data Terminal Equipment)  คือ  แหล่งกำเนิดและรับข้อมูล เช่น คอมพิวเตอร์
เทอร์มินัลคอมพิวเตอร์ เมนเฟรม เครื่องพิมพ์ เป็นต้น

          DCE (Data Communication Equipment) คือ  อุปกรณ์ในการรับ/ส่งข้อมูล เช่น โมเด็ม จานไมโครเวฟ หรือจานดาวเทียม Fibrotic Infrared Wireless เป็นต้น

          Protocol  คือ  วิธีการ หรือ กฎระเบียบที่ใช้ ในการสื่อสารข้อมูลเพื่อให้ผู้รับและผู้ส่งข้อมูล
เข้าใจกันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ตัวอย่างคือ x.25, SDLC, TCP/IP

         Software  คือ  ส่วนที่ทำหน้าที่ในการดำเนินงานในการสื่อสารข้อมูลเป็นไปตามที่โปรแกรม
กำหนด ตัวอย่างคือ Windows, Novell’s Netware

          Message  คือ  สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งผ่านไปในระบบสื่อสาร บางครั้งเรียกว่าสารสนเทศ
(Information) รูปแบบของข่าวสารมี 4 รูปแบบคือ
   - เสียง (Voice)
   - ข้อมูล (Data)
   - ข้อความ (Text)
   - ภาพ (Picture)

          Medium  คือ  สื่อกลางที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลจากต้นกำเนิดไปยังปลายทางสื่อกลางนี้อาจจะเป็น เส้น
ลวด สายไฟ สายเคเบิล หรือสายไฟเบอร์ออปติก เป็นต้น

          Cellular Radio  คือ  ระบบสื่อสารวิทยุ เป็นสื่อกลางการสื่อสารแบบไร้สายที่สามารถแพร่ได้บนระยะทางไกล เช่น ระหว่างเมืองหรือระหว่างประเทศ และยังไม่รวมถึงการแพร่บนระยะทางสั้นๆ

          Microwave  คือ  คลื่นไมโครเวฟที่มีการส่งสัญญาณข้อมูลไปกลับ  เป็นการส่งสัญญาณข้อมูลแบบรับช่วงต่อๆ กันจากหอ (สถานี) ส่ง-รับสัญญาณหนึ่งไปยังอีกหอหนึ่ง

          Satellite  คือ สัญญาณดาวเทียมที่มีลักษณะของการรับส่งสัญญาณข้อมูลอาจจะเป็นแบบจุดต่อจุด หรือแบบแพร่สัญญาณ 

          Bluetooth  คือ  สัญญาณบลูทูธ เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1998 ใช้ความถี่ในการส่งสัญญาณข้อมูล 2.5 GHz. สื่อสารได้ในระยะทางไม่เกิน 10 เมตร สื่อสารระหว่างอุปกรณ์หลาย ๆ อุปกรณ์ได้

          Infrared  คือ  อินฟราเรดที่มีลักษณะของแสงอินฟราเรดเป็นคลื่นความถี่สั้น นิยมนำมาใช้งานสำหรับการสื่อสารระยะใกล้ โดยมีอุปกรณ์หลายชิ้นในปัจจุบัน เช่น รีโมตคอนโทรล คอมพิวเตอร์ และรวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ


          Wireless  คือ  ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LAN : WLAN) หมายถึง เทคโนโลยีที่ช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง หรือกลุ่มของเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถสื่อสารกันได้






บทที่ 4  ประเภทของเครือข่าย



         Local Area Network: LAN  คือ เครือข่ายท้องถิ่น เป็นรากฐานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วไป กล่าวคือ เกือบทุกๆ เครือข่ายต้องมี LAN เป็นองค์ประกอบ เครือข่ายแบบ LAN อาจเป็นได้ตั้งแต่เครือข่ายแบบง่ายๆ ไปจนถึงเครือข่ายที่ซับซ้อน




         Metropolitan Area Network: MAN  คือ เครือข่ายในเขตเมือง เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่กว่าเครือข่ายแลน เป็นเครือข่ายในเขตเมืองครอบคลุมพื้นที่ในอำเภอหรือจังหวัดเดียวกัน โดยอาจเป็นการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ขององค์กรเข้าด้วยกัน



       Wide Area Network: WAN  คือ  เครือข่ายบริเวณกว้างหรือ WAN เป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้าง หรืออาจจะครอบคลุมทั่วโลกก็ได้ ตัวอย่างเช่น เครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่เรารู้จักกันดี WAN จะใช้สำหรับการเชื่อมต่อระหว่าง LAN ที่อยู่ห่างไกลกัน





       Peer to Peer Network  เครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์  
เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันโดย
เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะสามารถแบ่ง
ทรัพยากรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์หรือเครื่องพิมพ์
ซึ่งกันและกันภายในเครือข่ายได้


          Client/Server Network  คือ  เครือข่ายแบบไคลเอนท์เซิร์ฟเวอร์เป็นระบบที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องมีฐานะการทำงานที่เหมือนๆ กัน เท่าเทียมกันภายในระบบเครือข่าย แต่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่อง Server ที่ทำหน้าที่ให้บริการทรัพยากรต่างๆ ให้กับ เครื่อง Client หรือเครื่องที่ขอใช้บริการ

          File Server  คือ  เซิร์ฟเวอร์จะเป็นผู้จัดการระบบไฟล์บนดิสก์ในเครื่องของตนเอง




     
  
Application Server/ Database Server  
คือ  เป็นการทำงานที่ซับซ้อนกว่า File Server 
อีกระดับหนึ่ง ตัวอย่างที่เราพบบ่อยๆ 
คือ Database Server หรือ SQL Server 


          Print Server  คือ  ระบบ SPOOL (Simultaneous Peripheral Operation On-Line) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์งานได้พร้อมกันหลายคน

          Internet  คือ  เครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เป็นล้านๆ

          Intranet  คือ  เครือข่ายส่วนบุคคลหรือตรงกันข้ามกับอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ตเป็นเครือข่ายส่วนบุคคลที่ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต เช่น เว็บ, อีเมล, FTP เป็นต้น เป็นเครือข่ายที่องค์กรสร้างขึ้นสำหรับให้พนักงานขององค์กรใช้เท่านั้น การแชร์ข้อมูลจะอยู่เฉพาะในอินทราเน็ต

          Extranet  คือ  เป็นเครือข่ายกึ่งอินเทอร์เน็ตกึ่งอินทราเน็ต กล่าวคือ เอ็กส์ทราเน็ตคือเครือข่ายที่เชื่อมต่อระหว่างอินทราเน็ตของสององค์กร








บทที่ 5 มาตรฐานการเชื่อมต่อและสถาปัตยกรรมเครือข่าย

          OSI (Open Systems Interconnect) Model  คือ  เป็นแบบจำลอง ที่อธิบายถึงโครงสร้างการทำงานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยแบ่งออกเป็น 7 เลเยอร์ ที่มีหน้าที่ต่างๆ กัน โดยได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นในปี 1984 โดย Open Systems Interconnect




          IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers) คือ องค์กรสากลที่สร้างและพัฒนามาตรฐานด้านอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงการสื่อสารและวิทยาการคอมพิวเตอร์มีการประกาศมาตรฐานต่างๆ ไว้มากกว่า 900 มาตรฐาน




_________________________________________________________________________________


ขอขอบคุณ แหล่งอ้างอิง

http://elearning.northcm.ac.th/it/lesson6-1.asp
http://eclassnet.kku.ac.th//etraining/user/thaibannok/237211/Chapter-01.pdf
http://eclassnet.kku.ac.th//etraining/user/thaibannok/237211/Chapter-02new.pdf
http://eclassnet.kku.ac.th//etraining/user/thaibannok/237211/Chapter-03.pdf
http://eclassnet.kku.ac.th//etraining/user/thaibannok/237211/Chapter-04.pdf
http://eclassnet.kku.ac.th//etraining/user/thaibannok/237211/Chapter-05-2.pdf